ในการที่เราตัดสินใจจะลงทุนกับธุรกิจอะไรชักอย่าง เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า มีผลกำไรอย่างยั่งยืน มีปัยจัยสำคัญที่จะต้องนำมาประกอบการในพิจารณาคือ
ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร เราก็ต้องหาทำเล เมื่อเราได้ทำเลดีแล้ว ก็ต้องเลือกกลุ่มผู้บริโภค แล้วเลือก อาหารที่เป็นที่นิยมของคนกลุ่มนั้น หลังจากที่เราได้ศึกษาค้นคว้า
ข้อมูลดีแล้ว ก็มาวางแผน กำหนดเป้าหมายความสำเร็จไปทีละขั้น และหลังจากที่กิจการของเราประสบผลสำเร็จตามเป้าที่วางไว้แล้ว เราก็ควรจะขยายร้านไปยังที่ต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจเติบโต ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน ในการลงทุนเกี่ยวกับหุ้นก็เช่นกัน เมื่อคิดจะลงทุนซื้อ(เล่นหุ้น)กับหุ้นตัวไหน ก็ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับธุระกิจของหุ้นตัวนั้น ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ผลการดำเนินงานไปในทิศทางไหน มีโอกาสที่จะเติบโตอีกไหม หรือว่าถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
สำหรับการเลือกรูปแบบลงทุน ก็เช่นกัน เพราะแต่ล่ะคนมีความชอบหรือถนัดแตกต่างกัน ชึ่งรูปแบบการลงทุนก็มีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ การลงทุนแบบสั้น กลาง ยาว โดยแต่ล่ะรูปแบบก็แตกต่างกันออกไปเช่น ถ้าหากท่านชอบการลงทุนที่เห็นผลเร็ว มีเวลาตรวจสอบติดตามราคา มีความกล้าที่จะตัดสินใจได้อย่างเร็ดเร็ว ท่านก็เลือกเล่นแบบระยะสั้นเป็นต้น ต่อมาคือ
การใช้ตัวช่วยในการตัดสินใจ (เครื่องมือ)จะมีอยู่ 2 แบบหลักๆคือ
-Fundamental Analysis
คือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ประกอบด้วยผลการดำเนินงานของบริษัท บัญชี งบการเงิน แนวโน้มความเติบโตของบริษัท
-Technical Analysis
คือการวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นการติดตามความเคลื่อนไหว ของราคาหุ้น
ทั้งสองตัวช่วยที่กล่าวมานี้ ก็ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของแต่ล่ะท่านโดยเฉพาะ
ฉนั้นการลงทุนให้มีกำไรอย่างยังยืน ใครๆก็ทำได้ ถ้าหากมีทุน+ความรู้ เสริมด้วยความกล้าติดสินใจที่จะเริ่มต้นครับ
- เป็นธุรกิจอะไร มีลักษณะเด่นเฉพาะ ผลประกอบการที่ผ่านมาเป็นอย่างไร พันธกิจ หรือเป้าหมายอนาคตที่วางไว้
- กำหนดรูปแบบในการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง
- สามารถใช้เครื่องมือเพื่อช่วยวิเคราะห์ในการตัดสินใจ
ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร เราก็ต้องหาทำเล เมื่อเราได้ทำเลดีแล้ว ก็ต้องเลือกกลุ่มผู้บริโภค แล้วเลือก อาหารที่เป็นที่นิยมของคนกลุ่มนั้น หลังจากที่เราได้ศึกษาค้นคว้า
ข้อมูลดีแล้ว ก็มาวางแผน กำหนดเป้าหมายความสำเร็จไปทีละขั้น และหลังจากที่กิจการของเราประสบผลสำเร็จตามเป้าที่วางไว้แล้ว เราก็ควรจะขยายร้านไปยังที่ต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจเติบโต ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน ในการลงทุนเกี่ยวกับหุ้นก็เช่นกัน เมื่อคิดจะลงทุนซื้อ(เล่นหุ้น)กับหุ้นตัวไหน ก็ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับธุระกิจของหุ้นตัวนั้น ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ผลการดำเนินงานไปในทิศทางไหน มีโอกาสที่จะเติบโตอีกไหม หรือว่าถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
สำหรับการเลือกรูปแบบลงทุน ก็เช่นกัน เพราะแต่ล่ะคนมีความชอบหรือถนัดแตกต่างกัน ชึ่งรูปแบบการลงทุนก็มีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ การลงทุนแบบสั้น กลาง ยาว โดยแต่ล่ะรูปแบบก็แตกต่างกันออกไปเช่น ถ้าหากท่านชอบการลงทุนที่เห็นผลเร็ว มีเวลาตรวจสอบติดตามราคา มีความกล้าที่จะตัดสินใจได้อย่างเร็ดเร็ว ท่านก็เลือกเล่นแบบระยะสั้นเป็นต้น ต่อมาคือ
การใช้ตัวช่วยในการตัดสินใจ (เครื่องมือ)จะมีอยู่ 2 แบบหลักๆคือ
-Fundamental Analysis
คือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ประกอบด้วยผลการดำเนินงานของบริษัท บัญชี งบการเงิน แนวโน้มความเติบโตของบริษัท
-Technical Analysis
คือการวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นการติดตามความเคลื่อนไหว ของราคาหุ้น
ทั้งสองตัวช่วยที่กล่าวมานี้ ก็ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของแต่ล่ะท่านโดยเฉพาะ
ฉนั้นการลงทุนให้มีกำไรอย่างยังยืน ใครๆก็ทำได้ ถ้าหากมีทุน+ความรู้ เสริมด้วยความกล้าติดสินใจที่จะเริ่มต้นครับ