Leverage (เลเวอเรจ) คือ ความสามารถในการก่อหนี้ ซึ่งฟังดูแล้วบางท่านอาจจะยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร ถ้าจะอธิบายให้มองเห็นภาพมากขึ้น มันก็คือ ตัวขยายขนาดของเงินลงทุนเรา คือการใช้เงินจำนวนเล็กน้อย โดยโบรคเกอร์จะเพิ่มขนาดของจำนวนเงินลงทุน(ให้ยืม) ซึ่งจะมีให้เลือกว่าจะใช้ leverage เท่าไร
ยกตัวอย่าง
เมื่อคุณซื้อ 1,000 หุ้น ที่ราคา หุ้นละ 10 $
คุณต้องใช้เงิน 10,000$ เพื่อเทรด บางโบรกเกอร์สามารถให้คุณยืมเงินเพื่อเทรดสูงถึง 50-80% ของมูลค่าหุ้นทั้งหมด แทนที่คุณจะใช้เงิน 10,000$ แต่คุณกลับใช้แค่ 5,000-8,000 $ เท่านั้น สิ่งนี้แหละที่ทำให้เทรดเดอร์ สามารถซื้อหุ้นได้มาก โดยใช้เงินเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ทางโบรกเกอร์ก็จะชาร์จกำไรจากการยืมของคุณ ในตลาด Forex ก็ใช้หลักการณ์นี้เช่นกัน
แต่โบรกเกอร์ forex ให้คุณยืมได้ถึง 99 % ของทั้งหมดเพื่อให้คุณเทรด และคุณก็ใช้เงินทุนเพียงแค่ 1 % เท่านั้น ถ้าคุณต้องการเทรด 1,000$ คุณใช้เงินทุนเพียงแค่ 10 $ เท่านั้น นี่คือความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นกับตลาด forex อีกทั้ง ตลาด forex ไม่ชาร์จกำไรจากการยืมของคุณอีกด้วย
ตัวอย่าง ค่า Leverage ที่มีให้เลือกกันทั่วไป
ค่า Leverage 1:1
ค่า Leverage 1:2
ค่า Leverage 1:100
ค่า Leverage 1:200
ค่า Leverage 1:1000
ค่า Leverage 1:2000 เช่นที่ exness.com
ข้อดีข้อเสียของ Leverage
สำหรับข้อดีของการมี leverage เยอะนั้น จะทำให้เรามี margin ลดน้อยลง ทำให้เราถือได้นานมากขึ้น ส่วนข้อเสียของ leverage คือการที่เทรดได้ไม่เกิน 10% ของทุน ถึงแม้เราจะมี leverage เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวก็ไม่สามารถเทรดได้เกิน 10% อย่างแน่นอน จะลองยกตัวอย่างของข้อเสียให้ดูอีก 1 ตัวอย่าง เช่น
เมื่อคุณมี leverage 1:100 ต้องการสั่งออร์เดอร์ 1 ออร์เดอร์ คุณจะต้องใช้ margin 1,000 คุณจะโดนจุด cut loss ที่ -900 แต่ถ้า leverage 1:200 ต้องการสั่งออร์เดอร์ 2 ออร์เดอร์ เพื่อใช้ margin 1,000 คุณจะโดนจุด cut loss ที่ -450 เมื่อ 2 ออร์เดอร์รวมกัน จะเสีย -900 จะเท่ากับ 1:100 หรือ 10% นั้นเอง